อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ Computer Crime
- การกระทำการใด ๆ เกี่ยวกับการใช้คอมพิวเตอร์ อันทำให้เหยื่อได้รับความเสียหาย และผู้กระทำได้รับผลประโยชน์ตอบแทน
- การกระทำผิดกฎหมายใด ๆ ซึ่งใช้เทคโนโลยี คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือและในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่เพื่อนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต้องใช้ความรู้ทางเทคโนโลยีเช่นเดียวกัน
การประกอบอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ได้ก่อให้เกิดความเสียหาย
ต่อเศรษฐกิจ ของประเทศจำนวนมหาศาล อาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์
จึงจัดเป็นอาชญากรรม
ทางเศรษฐกิจ หรือ อาชญากรรมทางธุรกิจรูปแบบ หนึ่งที่มีความสำคัญ
ทางเศรษฐกิจ หรือ อาชญากรรมทางธุรกิจรูปแบบ หนึ่งที่มีความสำคัญ
การใช้คอมพิวเตอร์ในทางที่ผิด Computer Abuse
เป็นการกระทําผิดต่อจริยธรรม
ศีลธรรม หรือจรรยาบรรณ โดยการกระทําดังกล่าวอาจไม่ผิด กฎหมายก็ได้
แต่อาจสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น เช่น การส่งอีเมลแบบ Spam ซึ่งเป็นการรบกวนผู้ ที่ได้รับอีเมล์ดังกล่าว
เป็นต้น
สาเหตุเพิ่มจำนวนของอาชกรรมคอมพิวเตอร์
• เทคโนโลยีมีความซับซ้อนมากขึ้น
เทคโนโลยีสารสนเทศด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบเครือข่าย, เว็บไซต์,
โครงสร้างคอมพิวเตอร์ ตลอดจนระบบปฎิบัติการและแอปพลิเคชั่นต่างๆ
ในปัจจุบันมีการทํางานที่ซับซ้อนมากขึ้น
จุดเชื่อมต่อที่โยงในเครือข่ายของหลายองค์กรเข้าด้วยกันมีมากขึ้น
เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทําให้ผู้โจมตีมีโอกาสเข้าถึงเครือข่ายผ่านจุดเชื่อมโยงเหล่านั้นได้มากขึ้นเช่นกัน
• ความคาดหวังของผู้ใช้คอมพิวเตอร์ที่มากขึ้น
คือคาดหวังว่า คอมพิวเตอร์ จะทํางานได้อย่างรวดเร็วตามที่ผู้ใช้ต้องการเนื่องจากหากคอมพิวเตอร์ทํางานได้รวดเร็วเท่าใด
ย่อมหมายถึงผู้ใช้ที่มากขึ้นย่อมส่งผลให้ฝ่าย Computer Help Desk ต้องคอยรับสายผู้ใช้ที่เกิดปัญหาเป็นจํานวนมากขึ้นเช่นกัน ในบางครั้งฝ่าย Help
Desk จึงอาจละเลยการตรวจสอบว่าผู้ใช้เป็นพนักงานจริงหรือเป็นมิจฉาชีพที่แฝงตัวมา
• การขยายตัวและการเปลี่ยนแปลงของระบบคอมพิวเตอร์การเปลี่ยนแปลงจากระบบ
Stand-alone ไปเป็นระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ซึ่งเป็นระบบที่ทําให้คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในโลกนี้เชื่อมต่อกันได้
สามารถแบ่งปันข้อมูล/สารสนเทศซึ่งกันและกันได้ ธุรกิจเริ่มทําการค้าผ่านเว็บไซต์ ที่เรียกว่า “E-commerce” อีกทั้งผู้คนทั่วไปยังสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ได้
จากโทรศัพท์มือถือการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นผลให้องค์กรมีความเสี่ยงต่อการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่อยู่เสมอ
• การใช้ซอฟต์แวร์ที่มีช่องโหว่เพิ่มมากขึ้น
ซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนามาจําหน่ายมักพบว่ามีช่องโหว่ภายหลังจากการใช้งานของผู้ใช้
เช่น ช่องโหว่ที่พบในโปรแกรม Microsoft Windows Vista, RealPlayer Media เป็นต้น
การตรวจพบว่ามีช่องโหว่หลังการใช้งานทําให้ผู้ผลิตซอฟต์แวร์สร้างโปรแกรมซ่อมแซม (Patch)
ขึ้นมาใช้งานไม่ทันการโจมตีของแฮคเกอร์กล่าวคือ
ช่วงเวลาก่อนหน้าที่ผู้ผลิตจะสร้างโปรแกรมซ่อมแซมขึ้นมา
ผู้ใช้อาจถูกโจมตีจากแฮคเกอร์ก่อนแล้ว เนื่องจากแฮคเกอร์พบช่องโหว่ก่อน
(เรียกว่าการโจมตีลักษณะนี้ว่า “Zero-day Attack”) ดังนั้น
หากมีการ ให้ซอฟต์แวร์ที่มีช่องโหว่มาก ผู้ใช้ก็จะมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีมากด้วย
เช่นกัน
ประเภทของอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
1.อาชญากรนําเอาการสื่อสารผ่านทางคอมพิวเตอร์มาขยายความสามารถในการกระทําความผิดของตน
2. การละเมิดลิขสิทธิ์
การปลอมแปลง ไม่ว่าจะเป็นการปลอมแปลงเช็ค การปลอมแปลงรูป เสียง
หรือการปลอมแปลงสื่อทางคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่ามัลติมีเดีย
หรือรวมทั้งการปลอมแปลงโปรแกรมคอมพิวเตอร์
3.การฟอกเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งใช้อุปกรณ์ทางคอมพิวเตอร์และการสื่อสารเป็นเครื่องมือทําให้สามารถกลบเกลื่อนอําพรางตัวตนของผู้กระทําความผิดได้ง่ายขึ้น
4.อันธพาลทางคอมพิวเตอร์
หรือพวกก่อการร้าย
เป็นอาชญากรเท่านั้นที่ทําสิ่งเหล่านี้ขึ้นเพื่อรบกวนผู้ใช้บริการ
และเข้าไปแทรกแซงระบบข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น
รวมไปถึงผู้ก่อการร้าย (terrorist) ที่ใช้อินเทอร์เน็ตในการเผยแพร่ข้อมูลข่มขู่ผู้อื่น
6.การเข้าแทรกแซงข้อมูลและนําเอาข้อมูลเหล่านั้นมาเป็นประโยชน์ต่อตนโดยมิชอบ
7.ปัญหาเรื่องความยากที่จะตรวจสอบว่าจะเกิดเมื่อไร
ที่ไหน อย่างไร ทําให้ยากที่จะป้องกัน
8.ปัญหาในเรื่องการพิสูจน์การกระทําความผิด
และการตามรอยของความผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดที่เกิดขึ้นโดยผ่านอินเทอร์เน็ต
10.ความยากลําบากในการบังคับใช่กฎหมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมเหล่านี้มักเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ
11.ปัญหาความไม่รู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ
ของเจ้าพนักงานในกระบวนการยุติธรรม
12.ปัญหาการขาดกฎหมายที่เหมาะสมในการบังคับใช้
กฎหมายแต่ละฉบับบัญญัติมานาน
40-50 ปี
13.ปัญหาความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งเปลี่ยนแปลงรวดเร็วมากจนทางราชการตามไม่ทัน
แนวทางแก้ไข....
- ควรมีการวางแนวทางและกฎเกณฑ์ในการรวบรวมพยานหลักฐานและดําเนินคดีอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
- ให้มีคณะทํางานในคดีอาชญากรรมคอมพิวเตอร์พนักงานสอบสวนและอัยการอาจมีความรู้ความชํานาญด้านอาชญากรรมคอมพิวเตอร์น้อย
- จัดตั้งหน่วยงานเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
- บัญญัติกฎหมายเฉพาะเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ หรือแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายที่มีอยู่ให้ครอบคลุมอาชญากรรมคอมพิวเตอร์
- ส่งเสริมความร่วมมือกับต่างประเทศทั้งโดยสนธิสัญญาเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญา
- เผยแพร่ความรู้เรื่องอาชญากรรมคอมพิวเตอร์แก่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์หน่วยงาน องค์กรต่างๆ ให้เข้าใจแนวคิด วิธีการของอาชญากรทางคอมพิวเตอร์
- ส่งเสริมจริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์
มารยาทในการใช้เครือข่ายอินเตอร์เน็ต
- ไม่ใช้เครือข่ายเพื่อการทําร้ายหรือรบกวนผู้อื่น
- ไม่ใช้เครือข่ายเพื่อการทําผิดกฎหมาย หรือผิดศีลธรรม
- ไม่ใช้บัญชีอินเทอร์เน็ตของผู้อื่น และไม่ใช้เครือข่ายที่ไม่ได้รับอนุญาต
- ไม่คัดลอกโปรแกรม รูปภาพ หรือสิ่งใดบนอินเทอร์เน็ตมาใช้ โดยมิได้ขออนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์
- ไม่ฝ่าฝืนกฎระเบียบของหน่วยงานหรือบริษัทที่ท่านใช้บริการอินเทอร์เน็ต
- ไม่เจาะระบบเครือข่ายของตนเองและผู้อื่น ไม่ท้าทายให้คนอื่นมาเจาะระบบ
- การติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นบนอินเทอร์เน็ต ต้องกระทําด้วยความสุภาพเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน
- หากพบรูรั่วของระบบ พบเบาะแส หรือ บุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้อื่น ให้รีบแจ้งผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือผู้ดูแลระบบทันที
- เมื่อจะเลิกใช้ระบบอินเทอร์เน็ตอย่างถาวร ให้ลบข้อมูลและแจ้งผู้ดูแลระบบ
การหลีกเลี่ยงและรับมือกับภัยออนไลน์
- หลีกเลี่ยงการระบุชื่อจริง เพศ หรืออายุ เมื่อใช้บริการบนอินเทอร์เน็ต
- หลีกเลี่ยงการส่งข้อมูลส่วนตัว ภาพถ่ายของตนเองหรือบุคคลในครอบครัวทางอินเทอร์เน็ต
- หลีกเลี่ยงการโต้ตอบกับบุคคลหรือข้อความที่ทําให้รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจ
- หลีกเลี่ยงการสนทนาหรือนัดหมายกับคนแปลกหน้า คนแปลกหน้า
- หลีกเลี่ยงการสั่งซื้อสินค้าหรือสมัครสมาชิกโดยมิได้อ่านเงื่อนไขให้ละเอียดเสียก่อน
- ไม่คัดลอกโปรแกรม ข้อมูล รูปภาพ หรือสิ่งใดจากอินเทอร์เน็ต โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์ และไม่ได้ผ่านการตรวจสอบไวรัสคอมพิวเตอร์
สรุป สิ่งที่ได้จากวีดีโอนี้คือ
Hacker คือผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในระบบคอมพิวเตอร์อย่างสูงมากทั้งเรื่องเครือข่าย
ระบบปัฏิบัติการและเรื่องจิตวิทยา
จนเข้าใจได้วว่าระบบมีช่องโหว่ตรงไหนหรือสามารถเข้าไปค้นหาช่องโหว่ได้จากตรงไหน
แฮกเกอร์มีบทบาทที่แตกต่างหลากหลายมีทั้งดีและไม่ดี ในวงการแฮกเกอร์แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย คือ
ฝ่ายดี WhiteHat Hacker
ฝ่ายไม่ดี BlackHat Hacker
WhiteHat Hacker หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Ethical Hacker แฮกเกอร์แบบมีจริยธรรม เป็นแฮกเกอร์ที่ใช้ความรู้ความสามารถของตนไปในทางสร้างสรรค์ จะท่องไปในระบบต่างๆคอยมองหาข้อผิดพลาดหรือช่องโหว่ต่างๆของระบบ เมื่อพบก็จะแจ้งเตือนไปยังเจ้าของระบบเพื่อให้ทำการแก้ไขช่องโหว่ของระบบนั้นเพื่อสร้าความปลอดภัยให้ระบบนั้นมากยิ่งขึ้น
BlackHat Hacker หรือเรียกอีกอีกชื่อว่า Cracker มีความรุ้เหมือนกับ WhiteHat Hacker ทุกประการขาดแต่เพียงจริยธรรม ชอบสร้างชื่อเสียงด้วยการแฮกระบบต่างๆสร้างไวรัส สปายแวร์และสิ่งไม่พึงประสงค์ เพื่อรบกวนการทำงานของระบบต่างๆ นอกจากนี้ยังชอบขโมยข้อมูลสำคัญก่อให้เกิดความเสียหายที่มากมาย
วิธีการป้องกันจาก แฮกเกอร์
1 อย่าคลิ๊กสิ่งที่ส่งมาพร้อมกับ E-mail แปลกๆ
2. อย่าใช้ password เดียวกันมันทุกอย่าง
3.อย่าใช้ password E-mail ซ้ำกับเมมเบอร์ เวปไซด์ที่ เราสมัครไว้
4. เป็นไปได้อย่าซื้อสินค้าออนไลน์เลย
5. ข้อมูลในการแชร์ ไม่ควรส่วนตัวจนเกินไป
6. ระวังบรรดา wifi สาธารณะแบบไม่มี Pass ไว้บ้าง
7. Mac และ iOS ก็มีไวรัสนะ
8. ระวังบรรดาเพื่อนแปลกๆ ใน Social network
9. เปิดการใช้งานตัวกรอง หรือ แอนตี้ไวรัสไว้บ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น